Last Update Patch 2.55

สวัสดีพี่น้องทั้งหลายวันนี้เฮียขอฝิ่นในเวลางานมาเขียนบทความกันหน่อย ไม่ดีนะอย่าเอาเยี่ยงอย่าง /grin
อาชีพหลักที่เฮียเล่นใน Final Fantasy XIV: A Realm Reborn ก็คือ Paladin ( PLD ) ครับเลยขอเขียนบทความเกี่ยวกับพาลาดินซะหน่อย




สำหรับพาลาดินในเกม FF14 เหล่าผู้เล่นจะต้องเริ่มจากอาชีพ Gladiator จนเมื่อคุณเก็บเลเวลตัวละครได้ถึง 30 และเก็บเลเวลอาชีพ Conjurer ให้ได้เลเวล 15 พร้อมทั้งทำเควสประจำอาชีพของทั้งสองอาชีพ ( เควสประจำอาชีพจะให้ทำทุกๆ 5เลเวลคือ 5, 10, 15, …. ) คุณก็จะสามารถรับเควสเลื่อน "คลาส/Class" ไปเป็น Paladin ได้ครับ

บทบาทหน้าที่
หน้าที่ของ PLD ในเกมนี้คือ Tank ครับรับมือรับตีนของมอนส์เตอร์อย่างเดียว ถ้าพูดถึงการทำดาเมจแล้ว..หึหึ…กากสุดๆ ( ถึงแม้ว่า แพทช์ ปัจจุบันอาวุธจะดีขึ้นแรงโจมตีเพิ่มขึ้นแล้วก็เถอะ )

มาดูการอัพสเตตัสกันก่อนครับใน FF14 เราสามารถอัพค่าสเตตัสหลักของตัวละครได้ 30แต้ม เมื่อเลเวล50 และในเมื่อเราเป็น แทงค์ซึ่งมีหน้าที่รับการโจมตีแล้วสิ่งที่สำคัญก็คือ HP หรือค่า Hit Point นั่นเองดังนั้นการอัพสเตตัสหลักควรจะเป็น VIT นั่นเองครับ



สิ่งสำคัญในการยืนแทงค์หรือยืนชนกับเป้าหมายในเกมนี้นั้นมีหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงครับอย่างแรกคือค่า "Enmity" ในเกมอื่นอาจจะเรียกว่าค่า Aggro, Hate ฯลฯ การเป็นแทงค์ต้องพยายามดึงค่า Enmity จากเป้าหมายให้อยู่ที่เราเสมอไม่อย่างนั้นเป้าหมายจะหันไปโจมตีสมาชิกคนอื่นในกลุ่มได้ครับซึ่งคนอื่นที่เป็นตำแหน่ง Healer หรือ DPS เค้าไม่ได้ถึกเหมือน แทงค์ อย่างเราจึงต้องระวังเอามากๆ มาดูภาพกันครับ




จากภาพแรกจะมีลูกศรสีแดงสองจุดที่ผมเขียนไว้คือ ทางซ้ายบน ตรงรายชื่อสมาชิกในปาร์ตี้เพื่อนๆจะเห็น ตัวอักษร "A" และแถบขาวๆในสัญลักษณ์อาชีพของเฮีย และ หมายเลข2 กับแถบขาวๆที่เกือบจะเต็มหลอดในช่องของสมาชิกคนอื่น ( ในภาพใช้ โชโคโบะ เป็นสมาชิก ) หมายถึงว่าเป้าหมายหรือมอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังโจมตีเราอยู่คือเราสามารถดึงค่า Enmity เอาไว้ได้ แล้วจะเพิ่มค่านี้ยังไง การเพิ่มค่า Enmity เราต้องโจมตีเป้าหมายครับ Paladin จะมีบัฟอย่างสกิล Shield Oath ที่เอาไว้เพิ่มพลังป้องกัน อีกทั้งยังทำให้ค่า Enmity จากการทำคอมโบเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราต้องโจมตีไปเรื่อยๆครับและถ้าสังเกตลูกศรที่สอง ทางด้านขวากลางของภาพ จะแสดงรายชื่อมอนสเตอร์ที่เราและกลุ่มกำลังโจมตีอยู่จะเห็นเวลามีรูปสี่เหลี่ยมสีแดงขึ้นหน้าชื่อของมอนสเตอร์นั่นคือมอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังโจมตีคุณอยู่ครับ ( รายชื่อมอนสเตอร์ และ รายชื่อสมาชิกอาจจะปรับเปลี่ยนตาม UI ที่แต่ละคนตั้งนะครับตำแหน่งการแสดงข้อมูลพวกนี้อาจจะไม่เหมือนในภาพ )

ส่วนในภาพที่สองจะเห็นว่าค่า Enmity กับ สัญลักษณ์ของมอนสเตอร์จะเปลี่ยนไปจากภาพแรกคือ ค่าEnmity ตรงรายชื่อสมาชิกของเฮียเปลี่ยนไปเป็นเลข 2 และ A ไปอยู่ที่สมาชิกคนอื่น ส่วนสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมตรงรายชื่อมอนสเตอร์เปลี่ยนเป็น สามเหลี่ยมสีส้มกลับหัว นั่นหมายความว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังสนใจหรือโจมตีเพื่อนเราอยู่ถ้าเป็นแบบนี้ต้องรีบดึง Enmity กลับมาครับ

ในบางสถานการณ์ที่มอนสเตอร์ไม่ได้มาตัวเดียวหรืออยู่กันเป็นกลุ่มแล้วจะดึง Enmity อย่างไรเฮียแนะนำว่าพยายามโจมตีวนไปเรื่อยๆครับเนื่องจากเพราะดาเมจที่พาลาดินทำได้มันต่ำอยู่แล้วจึงไม่ต้องสนใจเรื่อง "การรีบทำดาเมจ" ให้สนใจเรื่องการดึง Enmity จะดีกว่าครับ แต่ข้อเสียของพาลาดินในการดึง Enmity กับเป้าหมายจำนวนมากนั้นคือสกิลโจมตีของพาลาดินมันเป็นแบบ Single Target คือโจมตีตัวเดียวดังนั้นเราต้องอาศัยสกิลอื่นบ้างในการดึง Enmity อย่างสกิล "Flash" และ "Circle of Scorn"

มาดูสกิลโจมตีของ Paladin กันครับ
Fast Blade สกิลเปิดการโจมตีเพื่อทำ คอมโบ กับสกิลอื่น
Savage Blade สกิลโจมตีท่าที่สองของพาลาดินครับ ถ้าคอมโบกับ Fast Blade จะโจมตีแรงขึ้นและเพิ่มค่า Enmity ครับ
Riot blade สกิลโจมตีอีกท่าหนึ่งครับถ้าคอมโบต่อจาก Fast Blade จะมีผลในการดูด MP ครับ
Shield Lob สกิลขว้างโล่มีผลในการเพิ่ม Enmity ครับ
Shield Bash หนึ่งในสกิลจุดเด่นของ พาลาดิน ครับคือเอาโล่ฟาดเป้าหมายทำให้ติดสตั้น สูงสุดถึง 6วิ มันเด่นเพราะมันเป็นสกิลสตั้น สกิลเดียวในเกมที่ cool down เร็วที่สุดครับ
Rage of Halone สกิลคอมโบสุดท้ายของพาลาดิน เพิ่มค่า Enmity มหาศาล แต่ต้องคอมโบต่อจาก Fast Blade > Savage Blade ครับ
Shield Swipe หนึ่งในสกิลโจมตีแล้วติดดีบัฟของพาลาดินครับ ผลคือทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้สกิลโจมตีทางกายภาพได้ แต่สกิลนี้จะใช้ได้เฉพาะเมื่อตัวละครของเรายกโล่ขึ้นมาป้องกันแล้วเท่านั้น มันจึงค่อนข้างหาโอกาสใช้ยากครับ อีกทั้งมอนประเภทบอสในดันเจี้ยนหลังๆนี่ไม่ค่อนจะติดสถานะอะไรด้วย
Circle of Scorn สกิลโจมตีท่าเดียวของพาลาดินที่เป็น AoE สกิลนี้มีผลทำให้เป้าหมายที่โดนติด DoT ด้วยครับ
Spirit Within สกิลที่แรงที่สุดของพาลาดินในการโจมตีแบบ 1Hit แต่มันมีข้อจำกัดอยู่นิดหน่อยคือถ้ายิ่งตัวละครของเราเลือดเยอะหรือ HP เต็ม ท่านี้จะโจมตีแรงตามด้วยครับ ถ้าเลือดน้อยก็ตีเบาลง

สกิลป้องกัน และ สกิลอื่นๆของพาลาดินครับ
Rampart สุดยอดสกิลป้องกันหากินของ PLD ครับ สกิลนี้มีผลคือ ป้องกันดาเมจ 20% จากดาเมจที่เป้าหมายโจมตีใส่เรา ข้อดีของมันคือระยะเวลาบัฟนานเมื่อเทียบกับสกิลอื่นๆ และ Recast เร็วครับ
Fight or Flight สกิลบัฟเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ 30%
Flash สกิลไฟฉายส่องมอนในระยะ 5หลาเพื่อเพิ่ม Enmity ครับ มีผลทำให้เป้าหมายที่โดนตาบอดขณะหนึ่งด้วย
Convalescence สกิลบัฟที่ทำให้เราโดนเพื่อน ฮีลแรงขึ้น
Provoke สกิลเพิ่ม Enmity แบบฉับพลันใช้กับ 1เป้าหมาย โดยผลของสกิลนี้จะทำให้ Enmity ของเราเทียบเท่ากับคนที่มีค่า Enmity เยอะที่สุดที่เป้าหมายนั้นสนใจอยู่ เหมาะสำหรับการดึงมอนฯในการสลับแทงค์ครับ ใช้เรียกมอนฯในระยะไกลก็ได้ด้วย
Awareness สกิลบัฟที่ทำให้เวลาเป้าหมายโจมตีใส่เราแล้วลดโอกาสติดคริติคอลลง 25%
Sentinel สกิลบัฟที่มีผลเหมือนกับ Rampart ครับแต่จะป้องกันมากกว่าคืออยู่ที่ 40% เรียกว่าใช้แล้วโคตรถึก แต่ Cool Down นานไปหน่อยครับอีกทั้งผลของสกิลก็อยู่ไม่นาน
Tempered Will สกิลบัฟที่ใช้ป้องกัน และ ล้างดีบัฟ Blind, Heavy แถมช่วยป้องกันการกระเด็นได้ด้วยครับ
Bulwark สกิลที่เพิ่มโอกาสการยกโล่ขึ้นมาบล็อกการโจมตีครับ เพิ่ม 60%
Sword Oath สกิลนี้ในคำอธิบายเค้าจะเขียนไว้ว่าเพิ่มแรงโจมตีทางกายภาพให้กับ Auto-Attack 50% แต่จากการใช้แล้วมันเพิ่มแรงโจมตีสกิลอื่นด้วยน่ะสิ ใช้ร่วมกับ Shield Oath ไม่ได้ครับ เป็นสกิลประเภทกดเปิด-ปิด
Shield Oath เป็นสกิลที่ทำให้แรงโจมตีจากเป้าหมายลดลง 20% และเพิ่ม Enmity ให้กับสกิลอื่นๆของพาลาดินครับใช้ร่วมกับ Sword Oath ไม่ได้ เป็นสกิลประเภทกดเปิด-ปิด
Cover สกิลที่ใช้ใส่สมาชิกในกลุ่มเรา 1คน แล้วเราจะรับดาเมจทางกายภาพคนๆนั้น ระยะไม่เกิน10หลา
Hallowed Ground สกิลเอาตัวรอดสุดเทพ ทำให้เราเป็นอมตะ 10วิ!!

มาดูการทำคอมโบของ พาลาดิน กันครับ
ถ้าโดยทั่วไปแล้วการทำคอมโบของ Paladin กับเป้าหมายเดี่ยวก็จะไม่มีอะไรมากจะเป็นรูปแบบง่ายๆคือ 1 > 2 > 3 ไปเรื่อยๆซึ่งคอมโบหลักก็คือ
Fast Blade > Savage Blade > Rage Of Halone
วนลูปไปเรื่อยๆ อาจจะมีการใช้สกิลอย่าง Spirit Within และ Circle of Scorn เข้ามาเสริมในทุกๆครั้งที่สองสกิลนี้มีการ recast เสร็จสิ้นและข้อดีของสองสกิลนี้คือไม่อยู่ใน Global Cool Down ( GCD ) ไม่เหมือนอย่างคอมโบหลักสามสกิลแรกพูดง่ายๆคือใช้ตอนไหนก็ได้
รูปแบบคอมโบที่เฮียใช้ประจำๆก็จะเป็น
Fast Blade > Spirit Within > Savage Blade > Circle of Scorn > Rage Of Halone


แล้วถ้ามีเป้าหมาย 2ตัวหรือมากกว่านั้นล่ะ รูปแบบการคอมโบของเฮียก้จะเป็นแบบนี้ครับเริ่มจากวิ่งเข้าหา เป้าหมายแรก เปิดด้วยสกิล
Shield Lop ปาโล่ระยะไกลดึงเป้าหมายเข้ามาก่อน > Circle of Scorn โจมตีเป้าหมายทุกตัวในระยะเป็นวงกลม > Flash เพื่อดึงมอนทั้งหมดไว้ที่เรา > Fast Blade > Savage Blade
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นตัวที่ 2 และโจมตีด้วย Rage Of Halone > Fast Blade >Spirit Within > เปลี่ยนกลับไปเป้าหมายแรก > Savage Blade
ประมาณนี้ครับ อาจะมีการใช้ Flash เสริมเข้าไปในกรณีที่ DPS ตีกระจายกันไม่ตีมอนสเตอร์ตัวเดียว งงล่ะสิ /surprise




อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การดึง Enmity สำหรับแทงค์ครับนั่นคือ ตำแหน่งการยืน เพราะในเกมนี้มอนสเตอร์จะหันหน้าเข้าหาแทงค์และหลายๆตัวสามารถใช้สกิลประเภท Area of Effect หรือ AoE ออกมาในรูปแบบต่างๆได้ดังนั้นถ้าคุณวิ่งเข้าไปดื้อๆตีเสร็จแล้วยืนเฉยๆเลยไม่จัดพื้นที่การยืนให้มอนถ้าเกิดมอนสเตอร์ใช้สกิล AoE มาก็อาจทำให้โดนเพื่อนในกลุ่มได้ครับดังนั้นจงนึกไว้เสมอว่า "อย่าลืมจัดตำแหน่งการยืน" บางคนอาจจะงงว่าดูยังไงว่ามอนสเตอร์มันหันไปทางไหน ดูได้จากภาพด้านล่างครับ




ในภาพจะเห็นว่าเฮียทำลูกศรเบี้ยวๆชี้ไปที่ตำแหน่งที่มอนสเตอร์หันหน้าครับ หรือสังเกตจากเวลาคุณเลือกเป้าหมายที่จะโจมตี มันจะมีลูกศรชี้ออกที่ปลายด้านหนึ่งของวงกลมนั่นแหละครับเป็นตัวบ่งบอกว่ามอนฯหันไปทางไหน

สกิลเสริมที่สามารถนำมาใช้ได้ครับ
เมื่อคุณเป็นพาลาดินแล้วคุณจะสามารถครอสสกิลมาใช้ได้ 2อาชีพคือ White Mage ( WHM ) กับ Warrior ( WAR )
ทางด้านของ WHM สกิลที่สามารถใช้ได้ดังนี้
Cure lv.1 เอาไว้เพิ่ม HP ซึ่งเพิ่มได้ประมาณ 200 - 300 อย่าครอสมาให้เปลืองเนื้อที่เลยครับ -.-)

Protect lv.1 อันนี้แล้วแต่บุคคลครับเอาไว้ก็ดี ไม่มีก็ได้

Raise lv.1 เวทย์ชุบชีวิตเพื่อนในปาร์ตี้ก็แล้วแต่สถานการณ์ นะแต่เฮียไม่ได้เอามาใช้

Stone Skin lv.1 จำเป็นอย่างยิ่งเพราะมันช่วยป้องกันดาเมจได้ 10% ของ Max HP เช่นมี HP 8000 ก็จะสามารถกันดาเมจได้ 800 ซึ่งถ้าใช้ถูกจังหวะเนี่ยมันอาจจะสามารถช่วยชีวิตคุณจากสกิลของบอสได้นะครับ

ทางด้านฝั่ง WAR ก็มีสกิลที่ครอสมาได้ดังนี้
Foresight บัฟเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ 20% ตีกลมๆก็เพิ่มประมาณ 200 มีเหมือนไม่มีแต่มีไว้ดีกว่า

Skull Sunder สกิลที่เอาไว้โจมตีพร้อมทั้งเพิ่มค่า Enmity เฮียว่ามันไม่ค่อยจำเป็นนะ

Fracture สกิลประเภท DoT ( Damage over Time ) สร้างความเสียหายให้เป้าหมายตามระยะเวลาที่ผลของสกิลติดอยู่

Bloodbath สกิลบัฟ ทำให้เวลาเราโจมตีทางกายภาพแล้วดูด HP 25% จากดาเมจที่ทำได้

Mercy Stroke สกิลโจมตีที่มีพลังโจมตีค่อนข้างแรง อีกทั้งยังสามารถดูด HP 20% จากเป้าหมาย ค่า HP ที่ดูดมาคิดจาก Max HP ของเราถ้าใช้ในจังหวะสุดท้ายที่มอนฯตาย เช่น Max HP 8000 ก็จะดูด HP มา 1600 แต่ว่าจะใช้ท่านี้ได้ต่อเมื่อเป้าหมายเลือดน้อยกว่า 20%

5 สกิลที่เฮียครอสมาใช้ก็คือ


อาวุธ
อาวุธหลักของพาลาดินคือ ดาบ และ โล่ ครับซึ่งไอ้ตัวดาบเนี่ยไม่ค่อยมีอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่โล่นี่สิครับมีให้เลือกใช้ถึง 3แบบคือ
1.Round Shield
คือโล่ทรงกลม ขนาดเล็กจุดเด่นของโล่ชนิดนี้คือจะมี Block Rate ที่สูงมากทำให้มีโอกาสยกโล่ขึ้นมาป้องกันการโจมตีบ่อยครั้ง แต่ค่าทางด้าน Block Strength น้อยมากทำให้การดูดซับแรงโจมตีนั้นน้อยตามไปด้วยเราจึงโดนโจมตีค่อนข้างแรงแม้จะยกโล่ขึ้นมาป้องกันก็ตาม

2.Kite Shield
โล่รูปว่าว โล่ชนิดนี้ค่า Block Rate กับ Block Strength จะเท่ากัน ทำให้อัตราการยกโล่นั้นน้อยกว่าแบบแรก แต่ก็บ่อยกว่าแบบที่สามที่กำลังจะพูดถึง ทางด้าน Block Strength ก็นับว่าเพิ่มขึ้นจากแบบแรงเยอะพอสมควรเลยครับเฮียว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วในโล่สามแบบ

3.Tower Shield
โล่ทรงสี่เหลี่ยมพืนผ้า เป็นโล่ที่มีขนาดใหญ่ครับจุดเด่นอยู่ที่ Block Strength ซึ่งเยอะมากที่สุดใน3ชนิด อาจจะถือได้ว่าตรงข้ามกับ โล่ทรงกลมแบบแรกเลยครับเพราะ Block Strength เยอะ แต่ Block Rate นี่ต่ำติดดินเลยเรียกว่ายกไม่ขึ้น ต้องมุดหลบหลังโล่เอาเอง /grin

ทางด้านค่าสเตตัส
อย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่าการเลือกอัพค่าสเตตัสควรจะเป็น VIT แต่ที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้เฮียหมายถึงค่าสเตตัสที่ได้จากการเลือกชุดป้องกันครับ อย่างที่หลายๆท่านทราบว่าพอเลเวลเราเต็ม50แล้ว เคลียร์เควสเนื้อเรื่องจบแล้วก็จะเริ่ม EndGame Cintent กันจริงๆจังอย่างลุย Coil of Bahamut หรือลุย Primals ทุกตัวซึ่งในระหว่างนั้นมันก็จะการเก็บแต้มประจำสัปดาห์อย่างพวก ToS, ToP เข้ามาด้วยซึ่งแต้มเหล่านี้สามารถเอาไปแลกชุดเครื่องป้องกันหรือ อาวุธได้ แต่ว่าๆ ๆ ๆ การลุยดันเจี้ยนที่ว่ามานั้นเราก็มีโอกาสได้อาวุธและชุดป้องกันประจำดันเจี้ยนด้วย และค่าสเตตัสมันไม่เหมือนกันดังนั้นเราต้องมาดังคำนวนว่าเราจะใช้ชุดป้องกันชิ้นได้จากไหน ถ้าสมมติเพื่อนๆอยากใช้ชุดจากการแลกแต้ม ToP ไปทั้งตัวก็ไม่มีใครว่าแต่มันอาจจะทำให้ค่าเสตตัสบางอย่างมันสูงเกินความจำเป็น เฮียเลยแนะนำว่านำพวกชุดพวกนี้มายำรวมกันน่าจะดีกว่าครับ เรามาดูกันก่อนว่าค่าเสตตัสที่ได้จากชุดมันอะไรบ้าง ( ต่อไปจะเรียกว่า ค่าสเตตัสรอง )
1.Parry - ค่านี้เป็นค่าที่เอาไว้ใช้อาวุธปัดป้องการโจมตี ต่างจากการบล็อกของโล่นะครับมันแยกกันนะ parry กับ Block ไม่เหมือนกัน ( การคำนวนหา parry เป็นเปอร์เซ็นต์ ให้เราเอาค่า parry จากหน้าสเตตัสของเราคูณด้วย 0.08 เช่น parry 500*0.08 = 40% )
2. Determination - ค่านี้ทำให้โจมตีแรง ฮีลแรง
3. Accuracy - ความแม่นยำ
4. Skill Speed - ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับมันไปเพิ่มสปีดของสกิลแต่ไม่ใช่ทำให้ อนเมชั่น ของตัวละครเร็วขึ้นนะ ค่านี้ยิ่งเยอะมันจะไปลด Recast ของสกิลครับเช่น สกิลเดิมที Recast 2.50วิ ใส่ Skill Speed เข้าไป Recast อาจจะลดมาเหลือ 2.48ประมาณนี้ ( 10 Skill Speed ลด Recast ได้ 0.01 )
5. Critical Hit Rate - เพิ่มโอกาสการโจมตีแบบ คริติคอล

สำหรับตัวละครของเฮียที่ Build เอาไว้เฮียจะเซ็ตค่า Accuracy ให้แค่พอดี กับดันเจี้ยนของแพทช์นั้นๆ เช่น Patch2.4 ดันเจี้ยน Final Coil of Bahamut - Turn13 พาลาดินใช้ acc 559 เฮียก็จะเลือกชุดที่ใส่แล้วค่า acc อยู่ไม่เกิน 559 เพราะเอามากเกินไปมันก็ไม่มีประโยชน์

ส่วนค่า Parry เฮียเซ็ตไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 43% ถ้าเป็นไปได้

ที่พยายามเน้นก็คือค่า Skill Speed ครับพยายามทำให้อยูประมาณ Recast 2.43 - 2.45 วิ เพราะอะไรหรอ ก็เพราะ DPS ในแพทช์นี้โจมตีกันแรงขึ้นและเร็วขึ้นครับดังนั้นลำพังแค่หวังการคอมโบดึง Enmity มันไม่ค่อยจะพอเท่าไหร่ จะเพิ่มค่า STR ให้ตีแรงก็ใช่เรื่องจึงมีความเห็นว่าไปเพิ่ม Skill Speed ให้ตีบ่อยขึ้นน่าจะดีกว่า

ส่วน Cri rate ใส่เท่าที่ใส่ได้ครับ แต่นี่ Det. มีก็ดีไม่มีก็ได้ครับในความเห็นเฮีย